Popular Posts

sponsor

Sunday, July 5, 2015

เผยการทดลองสุดแปลก! จับคนขังไว้ในโดม 2 ปี ห้ามติดต่อโลกภายนอก และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น!

Leave a Comment
man201-copy-e1436013635366-500x250
มนุษย์แต่ละคนล้วนมีความต้องการแตกต่างกัน แต่ดูเหมือนหนุ่มรายนี้จะต้องการในสิ่งที่ผิดแปลกเป็นพิเศษเพราะเขายอมขังตัวเองอยู่ในสถานีวิจัยลับกลางทะเลทรายนานกว่า 2 ปี เพื่อเฝ้าทดลองบางสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตเขาไป!
42511573_125423710002
Roy Walford คือชายคนนั้น เขาคือนักเขียน นักแสดง และนักวิทยาศาสตร์ที่มุ่งมั่นหาคำตอบเกี่ยวกับวิธีการยืดอายุไขด้วยวิธี Caloric Restriction (การกินอาหารในปริมาณน้อยลง ซึ่งเชื่อว่าอาจนำไปสู่การกระตุ้นเอนไซม์ Sirtuin ที่จะทำให้กลไกในร่างกายมนุษย์ปรับตัวและเกิดการเสื่อมถอยช้าลง) จนกระทั่งปี 1990 เขาได้มีส่วนไปข้องเกี่ยวกับสถานีวิจัย Biosphere 2 ที่ตั้งอยู่กลางทะเลทรายทางตอนเหนือของ Tucson และนักวิทยาศาสตร์ที่นั่นมีโปรเจคที่ฟังดูบ้าระห่ำให้หนุ่มคนนี้เข้าร่วม
man200-e1436013656920-500x375
โดย Biosphere 2 เป็นที่รู้จักกันในฐานะสถานีวิจัยอวกาศบนพื้นโลก ที่มุ่งมั่นศึกษาหาความรู้ด้านแปลกๆ ที่อาจก่อให้เกิดประโยชน์ในอนาคต และที่นี่ได้ทำการจำลองสภาพโครงสร้างทางชีวภาพของโลกขึ้นมา อาทิมีป่าชื้น หรือแอ่งน้ำ ทั้งนี้ทุกสิ่งจะถูกปกคลุมไว้ด้วยโดมปิดทึบ ซึ่งอาสาสมัครที่จะเข้าทดลองโปรเจคนี้ จะต้องอาศัยอยู่ภายในโดมนั้นนาน 2 ปี ห้ามออกมาภายนอก ส่วนอากาศในตัวโดมก็จะเกิดจากการไหลเวียนภายใน หรือพูดง่ายๆว่าไม่มีสิ่งใด (แม้กระทั่งอากาศ) จากภายนอก สามารถเล็ดลอดเข้าไปในโดมปริศนานั้นได้เลย

ตอนนั้น Roy Walford ได้สมัครโปรเจคนี้ในตำแหน่ง “หัวหน้าทีมแพทย์” และเขามีผู้ร่วมเผชิญชะตากรรมในโดมลับอีก 7 ราย เขาให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าไปว่า “ผมคิดว่ามันมีประโยชน์นะ กับการเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงกับสิ่งน่าทึ่ง”…แต่เขาแทบไม่รู้เลยว่าในเวลาต่อมาโดมแห่งนั้นจะพลิกชีวิตเขาไป
VI_taciWwVHowuA2FmthTGG65BEJILt_DgoPdxgNu8j0AQAASwEAAEpQ-500x331
ในระยะแรกที่ทุกคนเข้าโดม ทุกๆคนจะได้สวมชุดอวกาศคล้ายในภาพยนต์เรื่อง Star Trek อาหารการกินทุกอย่างยังสมบูรณ์ ผู้ทดลองทุกคนช่วยกันปลูกผลไม้หรือผักหลากชนิด อาทิ กล้วย พวกเขาอาศัยอยู่ในนั้นราวกับเป็นบ้านหลังใหม่ พวกเขาไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้และทำได้เพียงใช้ชีวิตอยู่ในนั้น บางวันพวกเขาก็หากินกับปลาที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ในแหล่งน้ำ
G3600170-Roy_Walford_seen_in_Biosphere_2_1990-SPL-500x344
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้น ผู้เข้าทดลองก็ค้นพบว่าอาหารภายในโครงสร้างจำลองนี้ผลิตได้ไม่ทันความต้องการ หรือจะบอกว่าอดอยากก็ว่าได้ แต่ในฐานะที่ Walford ดำรงตำแหน่งทีมแพทย์ เขาจึงตัดสินใจทดสอบเรื่อง Caloric Restriction (ควบคุมอาหาร) กับทุกคน รวมทั้งตัวเขาโดยเขาเรียกมันว่า “การอดอยากแบบปล่อยไปตามธรรมชาติ (healthy starvation)” และสั่งให้ทุกคนกินแค่ผลไม้ อาทิ กล้วย,มะละกอ,ถั่ว หรือเนื้อไก่ที่มีเพียงน้อยนิดประทังชีวิต
10 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณแคลอรี่ของผู้ทดลองมาจากไขมันเท่านั้น และทุกคนได้รับอนุญาติให้กินเนื้อสัตว์เฉพาะวันอาทิตย์ (1 ครั้งต่อสัปดาห์)ตอนนั้นทุกคนน้ำหนักลดฮวบฮาบราวกับนักซูโม่ที่นั่งอยู่ในห้องอบไอน้ำ บางคนซูบลงไปถึง 26 กิโลกรัมในพริบตา
Poynter หนึ่งในผู้ทดลองให้สัมภาษณ์ว่า “ตอนนั้น Roy Walford ดูตื่นเต้นมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะทั้งชีวิตเขาฝันว่าอยากจะทำสิ่งเหล่านี้” แต่ในท้ายที่สุดการทดลองกว่า 2 ปี ก็สิ้นสุดลง ท่ามกลางสภาพความอดอยากนั้น
hqdefault1
พวกเค้าค้นพบอะไร? นั่นคือคำถามที่หลายคนสงสัย และคนกลุ่มนี้คิดว่าวิถีชีวิตในโดมนี้สามารถนำไปปรับใช้กับการอาศัยอยู่บนดาวอังคารได้ แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับชีวิตของ Walford โดยหลังจากที่ออกมาเขาดูโทรมและแก่ลงอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อเวลาผ่านไป 6 เดือนหลังจากออก Biosphere 2 มา เขาก็เริ่มมีอาการซึมเศร้า รู้สึกปวดร้าวที่หลัง และเริ่มเดินได้ยากขึ้น
จนกระทั่งอาการร้ายเหล่านี้พัฒนาแรงขึ้น ซึ่งเขาประสบกับภาวะ “Freezing” ที่จู่ๆเขาก็หยุดเดินดื้อๆ แล้วร่างก็ทรุดลงไปเองโดยอัตโนมัติ และนั่นทำให้เขาต้องใช้ไม้ค้ำนับตั้งแต่นั้นมา อย่างไรก็ตามในวันที่เขาถูกเชิญไปออกรายการทีวีเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ของอเมริกา เขาก็ยืนยันหนักแน่นว่า “การศึกษา Caloric Restriction ในโดมแห่งนั้นจะทำให้อายุผมยืนยาวขึ้น อาจอายุสักประมาณ 110 ปี เหมือน Suzanne Somers”
แต่ความจริงก็คือบางทีสิ่งที่เขาพยายามศึกษาอาจเป็นเรื่องผิดพลาด เพราะในเวลาต่อมาเขาก็กลายเป็นโรค Lou Gehrig’s disease (โรคเซลล์ประสาทนำคำสั่งเสื่อม) ซึ่งนั่นทำให้ร่างกายของเค้าค่อยๆพัง ก่อนที่จะตายในปี 2004…ซึ่งการตายของเค้าก็ได้ทิ้งคำถามไว้มากมายว่า Biosphere 2 ได้มอบบทเรียนใดให้แก่มนุษยชาติกันแน่? Caloric Restriction เป็นวิธีที่ได้ผลจริงหรือ? แล้วการทดลองนั้นคุ้มค่าจริงหรือไม่?
If You Enjoyed This, Take 5 Seconds To Share It

0 comments:

Post a Comment